ปลูกเองกินเอง..ด้วยภาชนะแบบต่างๆ

   
     เห็นงอกงามแบบนี้ ดูเหมือนว่าง่ายๆ ชิลว์ๆ แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังก็ไม่ง่ายนะ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป  ปัจจัยสำคัญคือเวลา ที่ต้องมีให้มัน












   นี่คือการทดลองให้เห็นว่า ภาชนะในการปลูกก็สำคัญไม่แพ้ปัจจัยอื่นๆ


     -ปลูกบนดินโดยตรง พบว่าไม่อาจควบคุมสภาพแวดล้อมได้ซักอย่าง กิ้งกือ หอยทาก และมดอาจกวน พื้นที่อาจมีข้อจำกัดไม่เหมาะกับการทำตาข่ายกันฝนหรือแดด

    -ปลูกในกระถางและวางบนพื้นปูน  บางวันที่แดดจัดผักจะตาย เวลาย้ายต้องย้ายทีละกระถางเสียเวลา

    -ปลูกในกระถางและวางบนพื้นดิน  บางทีวัชพืชตามดินแอบขึ้น และหอยคลานมาอยู่ด้วย
      


       -เอากระถางมาใส่ในลังน้ำอัดลม ดูเหมือนว่า การที่กระถางก้นลอยไม่ติดพื้นจะทำให้พื้นด้านล่างแห้งเร็ว ผักไม่งาม ดินก้นกระถางมักแห้ง แม้จะมีกาบมะพร้าวสับรอง



             -การทำชั้นและกระถางวางแล้วใช้ซาแลงคลุม  ซาแลงคือหายนะแม้จะกันแดดได้ แต่สำหรับฝนไม่สามารถ เพราะจะทำให้เม็ดฝนรวมตัวกันหยดเป็นเม็ดใหญ่ขึ้น หลายๆจุด ทำให้ผักเสียหาย





    -ปลูกบนวัสดุอื่นๆ เช่นโฟม (เจาะรู) , กะบะพลาสติก หลายขนาด พบว่าแม้ใช้สว่านเจาะรูเพียบ ก็อมน้ำเกินไป รากเน่าซะงั้น





      -ปลูกในกระถางและวางบนแผ่นไม้ ค่อยวางบนปูน  อันนี้โอเค ได้การล่ะ ก้นกระถางอาจชื้นอย่างเหมาะสม ไม่แห้ง ไม่ร้อน และ ไม่มีวัชพืชมากวน




     -เอาดินมาใส่ลังไม้และปลูกมันบนดินโดยตรง อันนี้บางที ถ้าเราต่อกระบะไม้ไม่เหมาะสม รูระบายน้ำอาจน้อยไป รากเน่า ถ้ามากไปดินร่วงและแห้งเร็ว





    -เอากระถางมาใส่ในลังไม้ อันนี้โอเคเลย เพราะสามารถเคลื่อนย้าย ตกแต่ง เปลี่ยนกระถาง และควบคุมสภาพแวดล้อมได้ด้วย กรณีแดดจัด ฝนหนัก และความชื้นของดิน

    สรุปแล้ว ปลูกใส่กระถางแล้ววางบนกระบะไม้จะดีที่สุด สำหรับวัตถุประสงค์ของแอดมิน  

   ซึ่งต้องการเคลื่อนย้าย ตกแต่ง และนำไปเป็นของขวัญได้ 

   ถ้าแต่ละบ้านจะมีแปลงผักเล็กๆ ของตัวเอง สำหรับตกแต่งสวนและกิน ก็จะดีไม่น้อย ......ใครมีเวลาก็ลองทำกันดูได้เลยครับ...สำคัญที่เวลา

    และเกือบเฟอร์เฟคแล้วล่ะ แต่ทั้งหมดนี้ยังต้องยกเข้ายกออกบ้าง เวลาฝนลงหนัก  แต่เมื่อทำสิ่งนี้  ปัญหาทุกอย่างก็หมดไป


  

ลองประยุกต์กันดูครับ

       ฝันให้ทุกครัวเรือน มีสวนผักสวยๆ กินทุกวัน งดใช้เคมีห่างไกลโรคภัย  

-----------------






   

ความคิดเห็น